6 วิธีดูแลสุขภาพให้แข็งแรง เมื่อต้องเจอภาวะพิษฝุ่น PM 2.5

  

    เป็นเรื่องที่น่าติดตามและน่าเป็นห่วงอย่างมากสำหรับคนไทยในปัจจุบัน เนื่องจากภาวะฝุ่น PM 2.5 ที่มีค่าปริมาณสูงและเป็นอันตรายมาก สำหรับผู้ที่แข็งแรงแล้วก็ยังมีโอกาสเสี่ยงต่อการเกิดโรค แล้วยิ่งหากเป็นคนแก่ เด็ก หรือผู้ป่วย อาการก็จะยิ่งแย่เข้าไปใหญ่ และเมื่อภาวะฝุ่นละอองยังไม่มีแนวโน้มจะลดลงในทันที เราก็ต้องเตรียมความพร้อมเพื่อรับมือสุขภาพร่างกายเอาไว้ วันนี้เราจึงมี 6 วิธีดูแลตัวเองให้ปลอดภัยและได้รับผลกระทบจากพิษฝุ่นละอองชนิดนี้ให้น้อยที่สุดมาฝากกันค่ะ

1.ใส่หน้ากากกันฝุ่นที่มีคุณภาพก่อนออกจากบ้าน

  หน้ากากกันฝุ่นมีให้เลือกหลากหลายยี่ห้อ ดังนั้นก่อนออกจากบ้านทุกครั้งควรสวมหน้ากากกันฝุ่น เพื่อกรองอากาศและป้องกันฝุ่นละอองเข้าสู่ระบบทางเดินหายใจ

2.ดื่มน้ำเยอะๆ

  หากเจอฝุ่นละอองในปริมาณมากย่อมทำให้รู้สึกเจ็บคอ และระคายคอ การดื่มน้ำจะช่วยให้ร่างกายสดชื่นขึ้น อีกทั้งยังช่วยให้ลำคอของเราชุ่มชื้นและช่วยลดอาการแสบคอลงได้ ที่สำคัญการดื่มน้ำยังช่วยชะล้างสิ่งสกปรกที่อาจจะสะสมและเป็นอันตรายต่อร่างกายของเรา ดังนั้น ในภาวะฝุ่นละอองเยอะแบบนี้ควรดื่มน้ำให้มากขึ้นเป็นดีที่สุด

3.ปิดประตูหน้าต่างในบ้านให้สนิท

  อย่างน้อยก็เป็นการป้องกันฝุ่นละอองเข้ามาในบ้าน ถึงแม้ว่าอาจจะกันได้ไม่มาก แต่ก็สามารถช่วยให้เรามีพื้นที่ที่หายใจสะดวกบ้าง สำหรับผู้ที่ชอบสูดอากาศบริสุทธิ์จากนอกบ้าน หรือมีกิจกรรมต้องออกไปทำ ช่วงนี้คงต้องงดออกไปทำกิจกรรมบ้างแล้วเช่นกัน

4.หลีกเลี่ยงการออกกำลังกายกลางแจ้ง

  การออกกำลังกายกลางแจ้ง มีโอกาสที่จะสูดเอาฝุ่นละอองเข้าสู่ร่างกายได้มากกว่าปกติ ซึ่งอาจจะทำให้ร่างกายเจ็บป่วยได้ ดังนั้น หากต้องการออกกำลังกายในช่วงนี้ แนะนำออกกำลังกายในบ้านแทนเป็นดีที่สุด เช่น โยคะ พิลาทิศหรือแอโรบิก

5.ลดการใช้รถยนต์

  การใช้รถยนต์ 1 คันจะทำให้เกิดก๊าซพิษและฝุ่นละอองเพิ่มขึ้น ดังนั้น ควรหันมาใช้จักรยานหรือการเดินแทนในระยะใกล้ๆ แต่หากต้องไปในที่ไกลๆ อาจจะใช้ระบบขนส่งสาธารณะแทน เพราะรถขนส่งสารธารณะ 1 คัน สามารถจุคนได้มากกว่า 10 คน ก็จะปล่อยฝุ่นและก๊าซพิษออกมาเทียบเท่ากับรถยนต์ที่ใช้เพียง 1-2 คนเท่ากัน ดังนั้นช่วงนี้แนะนำทางเดียวกันไปด้วยกันดีกว่า นอกจากจะประหยัดน้ำมันแล้ว ยังช่วยลดฝุ่นและก๊าซพิษเพิ่มขึ้นด้วย

6.งดสูบบุหรี่

   ในภาวะหายใจไม่สะดวกแบบนี้ การสูบบุหรี่ถือว่าเป็นเรื่องที่ไม่เหมาะสมมาก เพราะจะยิ่งทำให้อากาศที่ใช้หายใจลดลง ส่งผลให้ร่างกายเจ็บป่วยได้ ซึ่งคนป่วย เด็กและคนชราที่อยู่ใกล้ๆ จะได้รับผลกระทบเยอะที่สุด ดังนั้นทางที่ดีควรงดหรือลดการสูบบุหรี่ไปเลย เพื่อไม่ทำให้สภาพอากาศยิ่งแย่ลงไปกว่าเดิม

  การใช้ชีวิตให้ปลอดภัยท่ามกลางภาวะฝุ่นละอองที่มากเกินไปนั้นอาจค่อนข้างลำบาก แต่หากเราทุกคนร่วมมือร่วมใจกันแล้ว คาดว่าปัญหาเหล่านี้จะสามารถแก้ไขได้อย่างรวดเร็วในอนาคต และในภาวะฝุ่นแบบนี้เราควรดูแลตัวเองและดูแลสุขภาพของคนที่เรารักให้ดีร่วมด้วยจะดีที่สุด