คำแนะนำ 10 ประการ การดูแลรักษาผิวในวัยสูงอายุ
โรคผิวหนังที่พบเป็นบ่อยในผู้สูงอายุคือ ผิวตกกระชนิดตุ่มดำนูน ผิวขรุขระคล้ายหูด มักขึ้นบริเวณใบหน้า โรคนี้ไม่มีอันตราย นอกจากทำให้ดูไม่สวย ถ้าต้องการกำจัดออกก็สามารถทำได้โดยให้แพทย์ขูดออกด้วยเครื่องไฟฟ้า ซึ่งการขูดใช้เวลาและค่าใช้จ่ายไม่มาก วิธีทำก็ไม่ต้องมีการเย็บแผล และเมื่อหายจะไม่มีรอยแผลเป็น
คำแนะนำ 10 ประการในการป้องกันและการดูแลรักษาผิวในวัยสูงอายุ
- หลีกเลี่ยงการตากแดดโดยเฉพาะแดดที่ร้อนจัด ในกรณีที่หลีกเลี่ยงไม่ได้ ควรป้องกันด้วยการใช้ร่ม ใส่หมวก สวมเสื้อผ้าป้องกัน ส่วนการใช้ครีมหรือโลชั่นกันแดดมีประโยชน์ในแง่กันผิวไหม้และกันฝ้า จะกันผิวแก่ได้น้อย
- รักษาความสะอาดของร่างกายด้วยการอาบน้ำวันละ 2 ครั้ง ไม่ควรอาบน้ำบ่อยเกินไป ไม่ควรอาบหรือแช่น้ำที่อุ่นจัดเพราะจะทำให้ผิวแห้ง
- สบู่ที่ใช้ควรเป็นชนิดผสมไขมัน ได้แก่ สบู่ก้อนที่มีจำหน่ายทั่วไป ไม่ควรใช้สบู่ยา เพราะอาจทำให้เกิดอาการแพ้ได้
- ใช้แป้งฝุ่นทาบริเวณข้อพับ เช่น ขาหนีบ รักแร้ เพื่อป้องกันความอับชื้น อันเป็นบ่อเกิดแห่งเชื้อรา
- ถ้าผิวแห้งควรใช้ครีมชนิดให้ความชุ่มชื้นนวดผิวหลังอาบน้ำทุกครั้ง
- ป้องกันการเสี่ยงต่อการบาดเจ็บ เพราะผิวจะฟกช้ำและเป็นแผลง่าย และเมื่อเกิดบาดแผลจะรักษาให้หายยาก
- เมื่อมีตุ่มเนื้องอกที่ผิวหนังหรือแผลเรื้อรัง ควรปรึกษาแพทย์
- ผู้สูงอายุควรตรวจสุขภาพร่างกาย รวมทั้งการตรวจสภาพผิวหนังปีละ 1 ครั้ง
- บำรุงรักษาสุขภาพของร่างกายให้แข็งแรงอยู่เสมอ ด้วยการกินอาหารที่มีประโยชน์ต่อร่างกายและย่อยง่าย การออกกำลังกายสม่ำเสมอ และพักผ่อนอย่างเพียงพอ หลีกเลี่ยงสิ่งที่เป็นพิษต่อร่างกาย เช่น อาหารหมักดอง บุหรี่ เหล้า เป็นต้น
- ทำจิตใจให้เบิกบานแจ่มใสอยู่เสมอ
เมื่อผิวเริ่มไม่สดใสเต่งตึงเหมือนวัยรุ่น คนเรามักจะหาวิธีการต่างๆที่จะทำให้ผิวคงสภาพเดิมไว้ให้นานที่สุด ด้วยการเสาะหาเครื่องสำอางที่อ้างสรรพคุณชะลอความชรา หรือยาอายุวัฒนะในรูปแบบต่างๆ ทั้งนี้เป็นการเสียเงินทองโดยเปล่าประโยชน์ ในความเป็นจริงแล้วยังไม่มียาใดหรือวิธีใดที่จะสามารถฝืนสังขารไม่ให้แก่ได้อย่างถาวรเลย
ความคิดเห็น
แสดงความคิดเห็น