7 วิธีปฏิบัติ แพ้อากาศไม่ค้องกังวลใจ

       โรคภูมิแพ้เกิดได้สาเหตุ เพราะปัจจุบันอากาศเป็นพิษมีมลพิษมากมาย   มีการก่อสร้างตึก  โรงงานอุตส่าหกรรม  ทำให้เกิดมลภาวะอากาศเสีย มีฝุ่นละออง  จึงทำให้มีโรคภูมิแพ้อากาศ

       อาการจาม น้ำมูกไหล คัดจมูก มีเสมหะ ระคายคอ ไอเรื้อรัง นาน1-2เดือน อาการเหล่านี้ ฟันธงว่าเป็นโรค แพ้อากาศ แน่นอน ซึ่งถ้าใครมีอาการเหล่านี้ควรรีบพบแพทย์ เพื่อเช็คว่าเป็นหนักแค่ไหน ไม่เช่นเน้นอาจจะเรื้อรัง เพื่อความปลอดภัยของตัวเอง

7 วิธีปฏิบัติ 

    1. หลีกเลี่ยงสิ่งที่แพ้

    

         หลีกเลี่ยงสิ่งที่แพ้ควรออกห่าง  ทำความสะอาดบ้านฝุ่นยิ่งเยอะควรหาผ้ามาปิดปากและจมูก  เพื่อป้องกันฝุ่นละอองเข้าไป  ทำให้เกิดอาการภูมิได้อีก  ผ้าปูที่นอน และปลอกหมอนควรซักเปลี่ยนอย่างน้อยสัปดาห์ละ 2 ครั้ง หรือหมั่นนำมาตากแดด

     2. หลีกเลี่ยงสารระคายเคือง

           น้ำหอมกลิ่นแรงๆ ธุป ที่มีกลิ่นฉุนๆ ควันบุหรี่ ล้วนเป็นสารระคายเคือง ที่มีส่วนทำให้อาการแพ้อากาศเป็นหนักขึ้นได้   รวมถึงเลี่ยงการเปลี่ยนแปลงอุณหภูมิและความชื้นอย่างเฉียบพลัน เพราะจะทำให้โรคกำเริบได้

     3. ออกกำลังกาย

        การออกกำลังจะบรรเทาอาการของโรคภูมิแพ้ แพ้อากาศ ให้ค่อยๆ หายได้ เพราะนอกจากจะช่วยกระตุ้นการทำงานของอวัยวะในร่างกาย ช่วยให้ร่างกายแข็งแรง สุขภาพกายดี แถมสุขภาพจิต ก็ยังดีตามอีกด้วย   วิธีปฏบัติที่ถูกต้องคือ ให้ออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ และพอเหมาะ ไม่มาก ไม่น้อยเกินไป ก็จะสร้างภูมิคุ้นกันให้กับร่างกายได้อีกทางหนึ่ง

      4. รับประทานอาหารที่มีประโยชน์

          อาหารที่มีประโยชน์ นอกจากจะดีต่อร่างกาย ยังเป็นภูมิคุ้มกันให้กับโรคได้ โดยเฉพาะอาหารจำพวกโปรตีน ผัก และผลไม้ ผักต่างๆยิ่งทางยิ่งดีต่อสุขภาพ

      5. นอนหลับพักผ่อน

               การพักผ่อนให้เพียงพอ ถือว่าเป็นรักษาโรคได้อย่างหนึ่งที่ทุกคนมองข้ามร่างกายก็ต้องการการชาร์จแบต ห่างร่างกายอ่อนเพลีย ขาดการพักผ่อน ก็เหมือนเป็นการเปิดช่องให้โรคเข้ามาย่างกรายได้ เพราะฉะนั้นการนอนหลับพักผ่อนให้เพียงพอ ไม่ต่ำกว่าวันละ 6-8 ชั่วโมงนี้ 

       6. ใช้ยาตามแพทย์สั่ง

             สำหรับผู้ป่วยที่แพ้อากาศควรปรึกษาแพทย์ เพื่อให้แพทย์วินิจฉัย และจ่ายยา แพทย์จะวินิจฉัยอาการและรักษาตามแต่บุคคลได้ดีกว่าตัวเราเองเสมอ ไม่ควรซื้อยามาใช้เอง เพราะอาจเป็นอันตรายต่อเยื่อจมูกได้ อาการก็จะค่อยๆดีขึ้นตามลำดับ

        7. มาตรวจตามแพทย์นัดทุกครั้ง

             ผู้ป่วยที่ต้องรักษาโดยวิธีฉีดยากระตุ้นสร้างภูมิคุ้มกัน ซึ่งต้องอาศัยความร่วมมือจากผู้ป่วยมาตรวจครงตามที่นัด จะทำให้ผลการรักษาดียิ่งขึ้น