6 ภาวะแทรกซ้อนอันตรายจาก “ความดันโลหิตสูง”



ภาวะแทรกซ้อนอันตรายจาก “ความดันโลหิตสูง”

  1. ภาวะสมองขาดเลือด
       เมื่อความดันโลหิตสูงขึ้นจนหลอดเลือดแดงในสมองเกิดอาการอุดตัน จนทำให้เลือดไม่สามารถเข้าไปเลี้ยงสมองผ่านหลอดเลือดสมองได้ จึงทำให้สมองขาดเลือด และทำงานได้ไม่ปกติ หากความดันในหลอดเลือดมากขึ้น อาจเสี่ยงหลอดเลือดสมองแตกจนเสียชีวิตได้อีกด้วย
  1. หัวใจล้มเหลว
       หากหัวใจต้องทำหน้าที่สูบฉีดเลือดไปหล่อเลี้ยงร่างกายมากขึ้น เพราะต้องสู้กับแรงดันในหลอดเลือด หัวใจอาจทำงานหนักจนกล้ามเนื้อหัวใจหนา และหัวใจโตขึ้น หัวใจสูบฉีดเลือดได้ยากขึ้น จนสุดท้ายหัวใจอาจไม่สามารถทำหน้าที่สูบฉีดเลือดได้ดีมากพอ จนระบบการทำงานล้มเหลวในที่สุด
  1. จอตาแตก
     ความดันของหลอดเลือดในดวงตา อาจทำให้จอตาแตก หรือมีเลือดออกได้ ซึ่งส่งผลกระทบต่อสายตาของผู้ป่วยที่อาจผิดปกติ หรืออาจถึงขั้นตาบอดได้
  1. สมองโป่งพอง
     ความดันโลหิตสูงเป็นสาเหตุของหลอดเลือดในสมองถูกดันจนโป่ง พอง นูน มีเลือดออก จนกระทั่งฉีกขาดจนทำให้ผู้ป่วยเป็นอัมพาต หรือเสียชีวิตได้
  1. ภาวะเมทาบอลิกซินโดรม
    เป็นกลุ่มอาการที่ทำให้ร่างกายมีระบบการเผาผลาญพลังงานในร่างกายผิดปกติ ไขมันสะสมในร่างกายมากกว่าปกติ ทำให้เกิดภาวะอ้วนลงพุง รอบเอวเพิ่มอย่างรวดเร็ว ไตรกลีเซอร์ไรด์สูง ไขมันดีต่ำ ระดับอินซูลินสูง ซึ่งทำให้เกิดโรคเบาหวาน โรคหัวใจ และโรคหลอดเลือดสมองได้
  1. ความจำเสื่อม
   นอกจากเรื่องของการทำงานของหลอดเลือดต่างๆ ที่เปลี่ยนแปลงแล้ว การทำงานของสมองก็ได้รับผลกระทบไปด้วย ความสามารถในการจำ คิด และวิเคราะห์ลดน้อยลง รวมถึงความสามารถในการเรียนรู้สิ่งใหม่ๆ ก็เป็นปัญหาด้วยเช่นกัน

เคล็ดลับการลดภาวะแทรกซ้อนจากโรคความดันโลหิตสูง

  1. วัดความดันโลหิตอย่างสม่ำเสมอ เพื่อรักษาระดับความดันโลหิตให้เป็นปกติเรื่อยๆ
  2. ออกกำลังกายเป็นประจำ ช่วยลดความดันโลหิตได้ สามารถทำได้ทั้งคาร์ดิโอ และเวทเทรนนิ่ง
  3. งดการสูบบุหรี่ และงดดื่มแอลกอฮอล์
  4. ควบคุมน้ำหนักของตัวเองให้อยู่ในเกณฑ์ปกติอยู่เสมอ
  5. ทานยาตามแพทย์สั่ง หากกำลังอยู่ในระหว่างการรักษาจากแพทย์
  6. หลีกเลี่ยงการทานอาหารที่มีไขมันจากสัตว์สูง รวมถึงอาหารที่ปรุงรสจัด และรสเค็มมากเกินไป
  7. พักผ่อนร่างกายให้เพียงพอ นอนราวๆ 6-8 ชั่วโมงต่อวันทุกครั้ง

ความคิดเห็น