“ลูกอมสีสันสดใส” ภัยเงียบที่ทำร้ายสุขภาพ
“ลูกอม”
เป็นขนมหวานประเภทหนึ่งสำหรับใช้อมหรือเคี้ยว มีน้ำตาลเป็นส่วนประกอบหลัก และอาจมีส่วนประกอบอื่นๆ เพื่อปรุงแต่งกลิ่นรสด้วยนอกเหนือไปจากกลิ่นและรสชาติ ปฏิเสธไม่ได้ว่าสีสันสวยๆ ก็เป็นแรงดึงดูดสำคัญที่ให้ผู้บริโภคอยากลิ้มลองความอร่อยของลูกอมชนิดนั้นๆ แต่รู้หรือเปล่าว่าสีสันที่สวยงามของลูกอมอาจนำมาซึ่งอันตรายต่อสุขภาพอย่างที่คุณคาดไม่ถึงเชียวล่ะ
สีที่ใช้ผสมในลูกอมตามกฎหมายแล้วผู้ผลิตจะต้องใช้สีที่ได้จากธรรมชาติหรือสีผสมอาหาร ซึ่งการใช้สีผสมอาหารนั้นก็ต้องใช้ตามปริมาณที่กฎหมายกำหนดไว้ โดยสีที่กฎหมายอนุญาตให้ใช้ได้มี 2 ชนิดได้แก่
- สีจากธรรมชาติ เป็นสีที่ได้จากพืช จึงเป็นสีที่ปลอดภัยที่สุดสำหรับใช้ผสมในขนมเด็ก เพื่อให้มีกลิ่นหอมน่ารับประทาน เช่น สีเขียวจากใบเตยสีเหลืองจากฟักทอง สีน้ำเงินหรือสีม่วงจากดอกอัญชัน
- สีผสมอาหาร ได้จากการสังเคราะห์สารเคมี เนื่องจากการใช้สีธรรมชาติอาจไม่สะดวก จึงได้มีการผลิตสีสังเคราะห์สำหรับผสมอาหารแทนการใช้สีจากธรรมชาติแม้กฎหมายกำหนดอนุญาตให้ใช้สีสังเคราะห์สำหรับผสมอาหารได้ แต่หากใช้ในปริมาณมากและบ่อยครั้ง ก็อาจก่อให้เกิดอันตรายแก่ร่างกายได้
สำหรับสีที่ไม่อนุญาตให้ใช้ผสมอาหาร เช่น สีย้อมผ้า สีย้อมกระดาษ สีย้อมเส้นใยต่างๆฯลฯ อาจมีโลหะหนักปะปนอยู่ซึ่งเป็นอันตรายต่อสุขภาพ ดังนี้
- อันตรายจากพิษของตัวสีเอง สีต่าง ๆ ที่ไม่ได้เป็นสีผสมอาหาร ส่วนใหญ่มักจะเป็นสีที่ก่อให้เกิดมะเร็ง หรือเนื้องอกที่ส่วนใดส่วนหนึ่งของร่างกาย โดยเฉพาะที่ระบบทางเดินอาหารและกระเพาะปัสสาวะ
- อันตรายที่เกิดจากสารไม่บริสุทธิ์ในสีนั้นๆ สิ่งที่สำคัญ คือ โลหะหนัก เพราะสีส่วนใหญ่จะมีโลหะหนักเป็นส่วนประกอบ เช่น โครเมี่ยม ตะกั่ว สารหนู ปนอยู่เสมอ การได้รับโลหะหนักเข้าไปในร่างกายมากๆ หรือเป็นประจำ อาจเป็นอันตรายร้ายแรงได้ เช่น ถ้าได้รับสารตะกั่วนานๆ จะทำให้เกิดโลหิตจาง และเป็นโรคพิษตะกั่ว
ฉะนั้นการที่จะบริโภคลูกอมต่างๆ ก็ควรที่จะเลือกชนิดที่มีสีอ่อนๆ หรือถ้าไม่มีสีเลยจะยิ่งดี ที่สำคัญควรดูที่ฉลากด้วยว่ามีเครื่องหมาย อย. หรือไม่สังเกตภาชนะบรรจุ ไม่ว่าจะเป็นกล่อง ห่อ ซอง จะต้องสะอาด ไม่เก่าหรือฉีกขาด ขณะที่รับประทานก็ควรสังเกตด้วยว่าลูกอมนั้นต้องไม่มีกลิ่น รส ผิดปกติ
ความคิดเห็น
แสดงความคิดเห็น